วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ตารางสอบ Admissions รับตรง สอบตรง 56



น้องๆหลายคนที่ขึ้นชั้น ม.6 อาจจะคิดว่าเพิ่งเปิดเทอมยังชิวๆได้อีกนาน  กว่าจะ Admissions ต้อง เมษายน 56 นู่แต่ความจริงแล้ว คุณแทบไม่มีเวลาเหลือให้เล่นแล้ว   
กรกฎาคม
สอบ  วิชาเฉพาะ ของจุฬาฯ
รับสมัครสอบ GAT-PAT 1/2556
สิงหาคม
สอบตรง แพทย์ มข
รับสมัคร แพทย์ กสพท
กันยายน
สอบตรง  มศว
ตุลาคม
สอบ GAT-PAT
สอบตรง  กสพท  วิชาเฉพาะ
สอบตรง   เภสัช ศิลปากร รอบที่ 1
พฤศจิกายน 
สอบตรง  มหิดล
สอบตรง  ธรรมศาสตร์
สอบตรง  พระจอมเกล้าธนบุรี
สอบตรง   ลาดกระบัง หลายคณะ เช่น วิศวะ สถาปัตย์
สอบตรง   มอ หลายคณะ
สอบตรง  ขอนแก่น
ธันวาคม
สอบตรง เชียงใหม่
รับสมัครสอบ GAT-PAT  2/2556
มกราคม
สอบ  7 วิชาสามัญ
กุมภาพันธ์
สอบ O-NET
มีนาคม
สอบ  GAT-PAT 2/2556
เมษายน 
รับสมัครแอดมิชชั่น 2554
สอบ เภสัช  ศิลปากร บูรพา รอบ 2
พฤษภาคม
ประกาศผลแอดมิชชั่น
รับตรงรอบหลังแอดมิชชั่น บางคณะ บางมหาวิทยาลัย
 สำหรับ เกษตรศาสตร์ แต่ละหลายคณะก็สอบเข้านะครับ เช่น ประมง สถาปัตย์ เกษตร วิทยาศาสตร์    วิศวะยื่นคะแนน gat-pat ครับผม
สรุป เดือน
สิงหาคม-กันยายน   จะเป็นเดือนแห่งการสมัคร  ช่วงนี้ควรจะเข้าเว็บไซต์เพื่อเชคข่าวทุกวัน
ตุลาคม-พฤศจิกายน  จะเป็นเดือนแห่งการสอบข้อเขียน
สนามสอบใหญ่ครั้งแรกของน้อง ๆ  จะเป็น สอบตรง มศว  เพราะที่นี่รับสมัครนักเรียนจากทั่วประเทศ  ปีก่อนมีผู้สมัครมากถึง 85,169 ราย  ค่าสมัครก็ประมาณ 42,584,500 บาท !!   ( สาเหตุที่นี้รับสมัครเร็ว ไม่ใช่เพราะเงินหมด อย่างที่น้องๆแซวกัน แต่น่าจะมาจากถ้าทราบตัวเลขผู้สมัครก่อน จะได้มีเวลาจัดเตรียมสถานที่สอบ มีความพร้อม  เพราะปีก่อนเปลี่ยนสนามสอบกันกะทันหัน เด็กไม่เข้าตามข่าวก็แย่เลย )
มศว สอบเดือน กันยายน 2555 นั่นหมายความว่าเราเหลือเวลา อีกแค่ 4 เดือนเท่านั้น  รอหลังจากนั้นก็พบกับเทศกาลสอบครั้งใหญ่ คือ gat-pat และหลังจากนั้น สอบตรง จะตามมาเรื่อย ๆ ไม่หยุด  บอกได้เลยว่ามันสาหัสมาก 

แนะนำวิธีเตรียมตัว
1  ต้องถามตัวเองให้ชัดๆ เลยว่าอยากเรียนอะไรกันแน่ คณะอะไร  เพราะถ้าเรามีจุดหมายแล้วจะทำให้การวางแผนในการอ่านหนังสือง่ายขึ้นเยอะ  
2  รู้เป้าหมาย รู้ว่าต้องสอบ อะไร !!   เช่น
อยากเรียนแพทย์ ทันตแพทย์  : ต้องสอบ 7 วิชาสามัญ  วิชาเฉพาะแพทย์  O-NET  PAT2  GAT
อยากเรียนวิศวะ  :  สอบ PAT1 PAT2  PAT3   ONET
( ยื่นคะแนนรับตรงใช้  PAT1 แต่ถ้า  Admissions จะใช้ PAT2 สรุป คนเรียนวิศวะสอบเยอะสุด เหนื่อยสุด )
อยากเรียนวิทยศาสตร์ : สอบ PAT1 PAT2  PAT3 GAT
อยากเรียนมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ : สอบ  GAT  PAT1  PAT7
แนะนำน้องให้โหลด  ระเบียบการ Admissions 55  จะมีวิชาที่เราต้องใช้
 downloadเอกสารทั้งหมด    ปลเกณฑ์ Admission 56 ดูจากใต้บทความ
3 แนะนำให้สอบ GAT-PAT ทุกรอบ เพราะความยากง่ายอาจจะไม่เท่ากัน  ถ้าอ่านหนังสือไม่ทัน ก็ให้เน้นวิชาที่ใช้สัดส่วนเยอะเช่น  จะเข้าเภสัช ใช้ PAT2 40 ก็เน้น pat2 ไปก่อนเลย    
4 สอบตรงส่วนใหญ่ข้อสอบจะเป็นเนื้อหาม 4-5 นะครับ ม.6 ก็มีออกบ้างแต่ไม่เยอะ ยังไงก็เน้นไปที่ 4-5 เป็นหลักครับ
5 ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ จากเว็บไซต์การศึกษาทุกเว็บไซต์  และเว็บไซต์มหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้าครับ
6 ถ้าใครไม่เดือนร้อนเรื่องเงินทองก็แนะนำให้สอบตรงหลายๆสนาม เพราะจะทำให้เราเคยชินกับการสอบที่กดดันมากครับ และจะทำให้เราตื่นตัวอยู่เสมอ
7 อย่าคิดว่าตัวเองเก่งแล้วประมาท ครับอยากบอกได้เลยว่าเสือซุ่มมีเยอะ  ในห้องดูเหมือนไม่เรียนกัน แต่พอถึงบ้านบางคนอ่านหนังสือทั้งคืน
8  ไม่มีตังเรียนกวดวิชา ทำไงดี  !! แนะนำให้เรียนฟรีจาก  มาม่า แบรนด์ เปปทีน ก็ได้ครับ หรือนี่ จุฬาเรดิโอ  http://www.curadio.chula.ac.th/Sarupkhem/index.php  
9 เทคนิคการอ่านหนังสือของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันบางคนชอบอ่านตอนดึก บางคนชอบอ่านที่เงียบๆ บางคนสอบอ่านกับเพื่อน  ก็ทดลองและปรับประยุกต์เทคนิคเป็นของตัวเองเลยจ้า ลองเข้าไปอ่านบทความได้ที่ http://unigang.com/Category/24
10  บางครั้งปัญหาชีวิต เรื่องเรียนที่ว่าหนักแล้ว แต่ก็จะมีเรื่องอื่นที่อาจจะหนักกว่าด้วยเช่น ครอบครัว เพื่อน และ ความรัก  แต่ก็อยากบอกเลยว่าทุกคนก็มีปัญหากันทุกคนมากบ้างน้อยมาก  ใครเจอปัญหาเยอะก็คิดซะว่า พระเจ้าส่งบททดสอบมาให้เรา เพื่อนให้เราผ่านไปให้ได้ เราจะเก่งและแข็งแกร่งขึ้นเอง
11 ถ้ายังไม่รุ้ว่าตัวเองจะสอบอะไร แต่ต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้า ผมก็แนะนำ  ภาษาอังกฤษ  รองลงมาก็ คณิตศาสตร์
12 ลองหาข้อมูลรับตรงปีก่อนได้จาก http://unigang.com/Search    ให้พิมพ์ชื่อคำว่า รับตรง คณะ สถาบัน ระบุปี 55  เช่น รับตรง เภสัช ศิลปากร
13 ถ้ามีที่ไหนเปิดค่าย ก็แนะนำให้เข้านะครับ เพราะจะได้คุยกับพี่ ๆ เราจะได้เข้าใจในตัวคณะและสาขามากขึ้น ถ้าไม่ชอบจะได้เปลี่ยนทัน
14 การสอบไม่ได้วัดกันที่ความฉลาด ไหวพริบอย่างเดียว แต่ยังวัดกันที่ มานะ ความอึด อดทน กำลังใจ เพราะเราทุกคนต้องสู้กับการสอบหลายครั้งอาจจะมีทั้้งผิดหวังและสมหวัง แต่ถ้าใครเกิดผิดหวังและเกิดหมดกำลังใจไป อาจจะทำให้เราผิดหวังไปตลอดกาล แต่เราสอบไม่ติดแล้วไม่ท้อกับมาอ่านหนังสือต่อ ความหวังว่าย่อมมีวันเป็นจริงแน่นอน  อันนี้ขอแนะนำให้อ่า ซิ่ว4ปีเพื่อคณะในฝัน ถ้าเราตั้งใจไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ :)
15 ถ้าผู้ปกครองหรือครูเข้ามาอ่าน  อยากบอกว่า น้องๆต้องการกำลังใจจากพวกคุณ !!


ทปอ ประกาศปรับน้ำหนัก Admissions  2556
ทุกกลุ่มสาระ ยังคง GPAX 20% และ O-NET 30%
กลุ่มที่ 1 วิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่ปรับ คือ
สัตวแพทยศาสตร์ สหเวชศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา GAT 20% PAT2 30%
เภสัชศาสตร์ ,GAT 10% และPAT2 40%
ทันตแพทย์/ พยาบาลเหมือนเดิม คือ  GAT 30%   PAT2 20%
สรุป  ที่เปลี่ยนไปมีเพียง เภสัชศาสตร์   จาก  GAT 20% PAT2 30%  เป็น  GAT10%  PAT2 40% 

กลุ่มที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพและชีวภาพ ปรับสาขา วิทยาศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ  GAT 10% ,PAT1  10% และPAT2 30%
สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ  GAT 10% ,PAT1 20% และ PAT2 20%
สรุป ที่เปลี่ยนไปมีเพียง สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ  จาก   GAT 10% ,PAT1  10% และPAT2 30% เป็น GAT 10% ,PAT1 20% และ PAT2 20%

กลุ่มที่ 3 วิศวกรรมศาสตร์  ไม่มีการเปลี่ยนแปลง  ใช้  GAT 15%, PAT2 15% , PAT 3 20%

ปล. สำหรับผมกลุ่มนี้ก็น่าปรับน้ำหนักนะครับ 

กลุ่มที่ 4 สถาปัตยกรรมศาสตร์   ไม่มีการเปลี่ยนแปลง  ใช้ GAT 10%  PAT4  40%

กลุ่มที่ 5 เกษตรศาสตร์ ปรับสาขา เกษตรศาสตร์ อุตสาหกรรมการเกษตร วนศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร  GAT 10% และPAT1 10% และPAT2 30%
สรุป  มีการปรับน้ำหนักจาก  GAT 20% PAT1 10%  PAT2 20%   น่าจะทำให้คะแนนแอดปีนี้ ลดลงจ้า

กลุ่มที่ 6 พาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี เศรษฐศาสตร์ การท่องเทียว  ไม่มีการปรับน้ำหนัก
- พาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์  GAT 30% PAT1  20%
- ท่องเทียว รูปแบบ 1  GAT 50 %
- ท่องเทียว รูปแบบ 2  GAT 40%   PAT7   10%


กลุ่มที่ 7 ครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ พลศึกษา สุขภาพ รูปแบบที่ 1 GPAX 20%, O-NET 30% ,GAT 20% และPAT5 30%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% ,GAT 10% และPAT5 20% และต้องเลือกสอบ PAT 1/2/3/4/6/7 วิชาใดก็ได้ 1 วิชา 20%
สรุป  กลุ่มนี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากปีก่อน  ใช้ GAT20% PAT5 30% ทุกคณะเลยครับ 
โดยเฉพาะให้มีการเลือกสอบ PAT  วิชาใดก็ได้ แบบนี้จะวัดเด็กได้ตรงความต้องการของสาขาหรอ >.<  

กลุ่มที่ 8 ศิลปกรรมศาสตร์ ปรับ สาขา วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ ดุริยางศิลป์ นาฎศิลป์ ศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ และศิลปะการออกแบบหัตถอุตสาหกรรม GPAX 20% , O-NET 30%, GAT 10% และเลือกสอบPAT4 หรือ 6 เพียง 1 วิชา 40%
สรุป ปีก่อนใช้ได้แค่ PAT6 เท่านั้นนะครับ แต่ปี 56 นี้ใช้ PAT4  ได้ด้วย หุหุ 
 

กลุ่มที่ 9 มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขา นิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมวิทยา สังคมสงเคราะห์ศาสตร์

ปรับพื้นฐานวิทยาศาสตร์   GAT 30% และPAT1 20%
พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 1 ไม่มีการปรับเปลี่ยน  ( ใช้ GAT 50% )

พื้นฐานศิลปศาสตร์รูปแบบที่  2  GAT 30% และPAT7 20%
สรุป อันนี้ถือว่าเป็นการกระทบต่อเด็กสายศิลป์ อย่างมากนะครับ  เพราะเมื่อก่อนใช้  GAT 40%  PAT1  10%  แต่ปรับเป็น  GAT 30% PAT1 20%  การปรัแบบนี้ทำให้เด็กสายศิลป์ เสียเปรียบสายวิทย์เต็ม ๆ  ขอให้น้องสายศิลป์ เตรียมฟิต คณิตศาสตร์ให้ดี  !!!!

1 ความคิดเห็น:

  1. http://www.vcharkarn.com/vcafe/209062 ทริคการอ่าน อ่านยังไงให้สอบได้

    ตอบลบ

ร่วมแสดงความคิดเห็น